การให้เหตุผลแบบอุปนัย  ความหมายแบบภาษาบ้านๆก็คือ เป็นการให้เหตุผลโดยยึดความจริงจากส่วนย่อยๆที่พบเห็นไปสู่ความจริงที่เป็นส่วนรวม  ยกตัวอย่างเช่น เราพบว่าทุกเช้าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตอนเย็นพระอาทิตย์จะตกทางทิศตะวันตก เราจึงให้ข้อสรุปว่าพราะอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก

ในทางคณิตศาสตร์ใช้การให้เหตุผลแบบอุปนัย เพื่อสรุปคำตอบหรือเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา เช่น เมื่อสังเกตจากรูปแบบของจำนวน \(1,3,5,7\) เราสามารถหาจำนวนถัดไปจาก \(7\) คือ \(9,11,13,15\) โดยสังเกตจากรูปแบบว่ามันเพิ่มขึ้นที่ละสอง  การหาจำนวนถัดไปที่ได้จากการสังเกตที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างของการให้เหตุผลแบบอุปนัย

เรามาลองทำแบบฝึกหัดเกี่ยวกับการให้เหตุผลแบบอุปนัยกันดีกว่าครับ ไม่มีไรยากนะเรื่องการให้เหตุผลแบบอุปนัยแต่ต้องอาศัยทักษะการสังเกตุครับ

1. พิจารณาแบบรูปของจำนวนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ แล้วใช้การให้เหตุผลแบบอุปนัย หาว่า \(a\) คือจำนวนใด

1)  \(12,22,32,42,a\)

\(\underline{Ans}\quad a=52\)  เพิ่มขึ้นทีละ 10 

2)  \(5,3,1,-1,-3,a\)

\(\underline{Ans}\quad a=-5\)  ลดลงทีละ 2

3) \(1,4,9,16,25,a\)

\(\underline{Ans}\quad a=36\) ข้อนี้คือการนำจำนวนนับมายกกำลังสอง \(1^{2},2^{2},3^{2}\)

4) \(1,-1,-3,-5,a\)

\(\underline{Ans}\quad a=-7\)  ลดลงทีละ 2

5) \(8,14,20,26,a\)

\(\underline{Ans} \quad a=32\)


2. พิจารณาผลคูณที่กำหนดให้ต่อไปนี้ มีข้อสังเกตอย่างไรเกี่ยวกับตัวคูณและผลคูณ และสามารถให้ข้อสรุปได้หรือไม่

\begin{array}{lcl}1\times 9&=&9\\2\times 9&=&18\\3\times 9&=&27\\4\times 9&=&36\\5\times 9&=&45\\6\times 9&=&54\\7\times 9&=&63\\8\times 9&=&72\end{array}

ตอบ ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ถ้าเราเอาเลขโดดแต่ละหลังของผลคูณมาบวกกันแล้วมันจะหารด้วย 9 ลงตัว เช่น

\(8\times 9=72\)  จะเห็นว่า \(7+2=9\)  หารด้วย 9 ลงตัว

\(15\times 9=135\)  จะเห็นว่า \(1+3+5=9\) หารด้วย 9 ลงตัว


3. พิจารณาผลคูณของจำนวนต่อไปนี้

\begin{array}{lcl}142,857\times 1&=&142,857\\142,857\times 2&=&285,714\\142,857\times 3&=&428,571\\142,857\times 4&=&571,429\end{array}

1) มีข้อสังเกตเกี่ยวกับตัวเลชที่แทนจำนวนที่เป็นผลคูณอย่างไร

ตอบ ผลคูณที่ได้จะเป็นเลขโดดเหล่านี้เท่านั้นคือ 1,2,4,5,7,8

2) ผลคูณของ 142,857 กับ 5 และ 6 มีแบบรูปเดียวกับกับข้อสรุปข้างต้นหรือไม่

ตอบ โดยการให้เหตุผลแบบอุปนัยผลคูณของ \(142,857\times 5\) และ \(142,857\times 6\) จะประกอบด้วยเลขโดด \(1,2,4,5,8,7\)  ซึ่งเมื่อเราลองคูณดูจะเห็นว่า

\(142,857\times 5=714,285\)

\(142,857\times 6=857,142\)


4. พิจารณาผลคูณต่อไปนี้

\begin{array}{lcl}37\times 3&=&111\\37\times 6&=&222\\37\times 9&=&333\\37\times 12&=&444\end{array}

1) มีข้อสังเกตอย่างไรเกี่ยวกับตัวคูณและผลคูณข้างต้น 

วิธีทำ ข้อนี้อยากให้ทำเองก่อนอย่าพึ่งดูเฉลยนะครับ เพราะเหมือนจะยากแต่จริงๆแล้วไม่ยากต้องสังเกตดีๆครับ จะเห็นว่า

\begin{array}{lcl}37\times 3&=&111\\37\times 3\times 2&=&222\\37\times 3\times 3&=&333\\37\times 3\times 4&=&444\\37\times 3\times 5&=&555\\37\times 3\times 6&=&666\end{array}

2) ใช้การให้เหตุผลแบบอุปนัยเพื่อหาตัวคูณที่ได้ผลคูณเป็น 555,666,777,888,999

วิธีทำ จากการให้เหตุผลแบบอุปนัยจะได้ว่า

\begin{array}{lcl}37\times 3\times 5&=&555\\37\times 3\times 6&=&666\\37\times 3\times 8&=&888\\37\times 3\times 9&=&999\end{array}


5. จากแบบสมการที่กำหนดให้ จงหาสมการถัดไปโดยใช้การให้เหตุผลแบบอุปนัยและตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบโดยวิธีการคำนวณ

1) 

\begin{array}{lcl}(9\times 9)+7&=&88\\(98\times 9)+6&=&888\\(987\times 9)+5&=&8,888\\(9,876\times 9)+4&=&88,888\\\underline{Ans}\\(98,765\times 9)+3&=&888,888\end{array}

ตรวจสอบคำตอบโดยการคำนวณจะได้

\((98765\times 9)+3=888,888\)  เป็นจริง

2) 

\begin{array}{lcl}5(6)&=&6(6-1)\\5(6)+5(36)&=&6(36-1)\\5(6)+5(36)+5(216)&=&6(216-1)\\\underline{Ans}\\5(6)+5(36)+5(216)+5(1296)&=&6(1296-1)\end{array}

*** ข้อสังเกตในการทำข้อนี้คือ 

\begin{array}{lcl}6^{1}&=&6\\6^{2}&=&36\\6^{3}&=&216\\6^{4}&=&1296\end{array}

ตรวจสอบคำตอบโดยการคำนวณจะได้

\begin{array}{lcl}5(6)+5(36)+5(216)+5(1296)&=&6(1296-1)\\7770&=&7770\end{array}  เป็นจริง


6. จงใช้การให้เหตุผลแบบอุปนัยในการตรวจสอบข้อสรุปต่อไปนี้

1) ผลคูณของจำนวนนับสองจำนวนใดๆ จะหารด้วย 2 ลงตัวเสมอ

ตอบ อันนี้ไม่จริงครับ เพราะ ถ้าเราเอา \(1\times 3=3\) แน่นอน 3 หารด้วย 2 ไม่ลงตัวครับ

2) จำนวนนับใดๆ ที่มากกว่า 4 จะเขียนในรูปการบวกของจำนวนนับที่เรียงติดกันสองจำนวนหรือมากกว่าสองจำนวนได้เสมอ เช่น  \(5=2+3,\quad 6=1+2+3,\quad 14=2+3+4+5\)  เป็นต้น

ตอบ ไม่จริง เช่น \(8\)  ไม่สามารถทำได้ ไม่เชื่อลองทำดู

\begin{array}{lcl}8&=&4+4\\8&=&5+3\\8&=&1+7\\8&=&2+6\end{array}

เห็นได้ชัดเลยว่าไม่สามารถแยกเป็นจำนวนที่เรียงติดกันสองจำนวนหรือมากว่าสองจำนวนบวกกันได้นะครับ

3) กำลังสองของจำนวนนับใดๆ จะเป็นจำนวนคู่เสมอ

ตอบ ไม่จริง เช่น  \(3^{2}=9\) ( 9 ไม่ใช่จำนวนคู่)