• ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นค่าที่บ่งบอกถึงการกระจายของข้อมูล  ถ้าค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหาออกมาแล้วมี

    ค่ามากนั้่นหมายความว่า ข้อมูลชุดนั้นมีการกระจายกันมากถ้าเป็นคะแนนสอบของนักเรียนก็บ่งบอกว่านักเรียนได้คะแนนต่างกัน  แต่ถ้าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหาออกมาแล้วมีค่าน้อย นั้นหมายความว่าข้อมูลชุดนั้นเป็นข้อมูลที่เกาะกลุ่มกันอยู่ เป็นข้อมูลที่มีค่าใกล้เคียงกัน ถ้าเป็นเป็นคะแนนสอบของนักเรียนก็แสดงว่านักเรียนได้คะแนนไล่เลี่ยกันไม่ห่างกันมาก

  • ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่

    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่

       ถ้า \(x_{1},x_{2},x_{3},\cdots ,x_{N}\) เป็นข้อมูลของประชากร  N หน่วย และมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเป็น \(\mu\) แล้ว ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากร หรือ \(\sigma\) (อ่านว่า ซิกมา) สามารถคำนวณได้ดังนี้

    \begin{array}{lcl}\sigma &=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}(x_{i}-\mu )^{2}}{N}}\end{array}

    หรือ

    \begin{array}{lcl}\sigma &=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-\mu^{2}}\end{array}

    โดยที่

    \(\mu\)  แทนค่าเฉลี่ยเลขคณิตของประชากร

    \(N\) แทนจำนวนข้อมูลทั้งหมดของประชากร

    นอกการใช้สัญลักลักษณ์ \(\sigma\) แล้ว อาจใช้สัญลักษณ์ S.D. หรือ s 

    แต่ในกรณีที่ไม่สามารถศึกษาข้อมูลทั้งหมดของประชากร และข้อมูลที่ใช้เป็นข้อมูลตัวอย่างซึ่งเป็นตัวแทนของประชากรแล้ว ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวอย่าง(sample standard deviation หรือ s)ซึ่งใช้เป็นตัวประมาณของ \(\sigma\) คำนวณได้ดังนี้

    พูดง่ายๆก็คือ ถ้าข้อมูลที่ให้มาเป็นกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของประชากรเวลาคำนวณส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานให้ใช้สูตรนี้ครับ

    \begin{array}{lcl} s&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}(x_{i}-\bar{X})^{2}}{n-1}}\end{array}

    หรือ

    \begin{array}{lcl} s&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}x_{i}^{2}-n\bar{X}^{2}}{n-1}}\end{array}

    โดยที่

    \(\bar{X}\)  แทนค่าเฉลี่ยเลขคณิตของตัวอย่าง

    \(n\)  แทนจำนวนของข้อมูลทั้งหมดของตัวอย่าง

     อนึ่งในทางปฏิบัติจริงๆ ข้อมูลที่เขาให้มานั้นมักจะเป็นตัวอย่าง  ไม่ใช่ประชากร ดังนั้นจึงนิยมใช้สูตรที่เป็น \(s\)  มากกว่า \(\sigma\)

    มาดูตัวอย่างการทำแบบฝึกหัดกันเลยครับ

    1. จงหาพิสัย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย  และส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ของราคาเครื่องสำอางชนิดหนึ่ง ซึ่งจากการสำรวจร้านค้ามาเป็นตัวอย่าง 8 แห่ง ได้ราคาของเครื่องสำอางดังนี้  410  415  425  410  640  400  410  และ 410 บาท ตามลำดับ แล้วพิจารณาว่าการวัดการกระจายของข้อมูลวิธีใดเหมาะสมกับข้อมูลที่สุด

    วิธีทำ

    ราคาเครื่องสำอางชนิดหนึ่งที่นำมาเป็นตัวอย่างจากร้านค้า 8 แห่ง เรียงจากน้อยไปมากดังนี้

    400  410 410  410  410  415  425  640

    พิสัยเท่ากับ  640-400=240  บาท

    ค่าเฉลี่ยเลขคณิต \(\bar{X}=\frac{400+4(410)+415+425+640}{8}=440\)

    ต่อไปหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s)

    \begin{array}{lcl} s&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}(x_{i}-\bar{X})^{2}}{n-1}}\\&=&\sqrt{\frac{(-40)^{2}+4(-30)^{2}+(-25)^{2}+(-15)^{2}+(200)^{2}}{8-1}}\\&=&\sqrt{\frac{46050}{7}}\\&=&81.11\quad บาท \end{array}

    ต่อไปหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย

    \begin{array}{lcl}M.D. &=&=\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}|x_{i}-\bar{X}|}{n}\\&=&\frac{40+4(30)+25+15+200}{8}\\&=&\frac{400}{8}\\&=&50\quad บาท \end{array}

    ต่อไปหาส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์

    หาตำแหน่งของ \(Q_{1}=\frac{1}{4}(8+1)=2.25\)

    จะได้ ควอร์ไทล์ที่ 1 หรือก็คือ \(Q_{1}=410\)  การหาค่าควอร์ไทล์ใครหาไม่เป็นไปอ่านตามลิงค์นะครับ

    หาตำแหน่งของ \(Q_{3}=\frac{3}{4}(8+1)=6.75\)

    จะได้ \(Q_{3}=415+(10\times 0.75)=422.5\)

    จะได้ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์เท่ากับ \(\frac{422.5-410}{2}=6.25\)  บาท

    ดังนั้นการวัดการกระจายของข้อมูลชุดนี้ ควรใช้ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์จึงเหมาะสมที่สุดเนื่องจากราคาเครื่องสำอาง 640 บาท เป็นค่าสูงผิดปกติเมื่อเปรียบเทียบกันค่าอื่น


    2. จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตและเปรียบเทียบการกระจายของราคาสินค้าชนิดหนี่งที่ขายตามร้านต่างๆในสองท้องที่ซึ่งขายในราคาที่ต่างกันดังนี้

    ท้องที่ที่หนึ่ง (บาท) 50,  52,  45,  55,  54,  48,  53

    ท้องที่ที่สอง (บาท) 40,  50,  51,  52,  51,  51,  62,  53,  49

    วิธีทำ

    ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของราคาสินค้าในท้องที่ที่หนึ่งคือ

    \(\bar{X}=\frac{50+52+45+55+54+48+53}{7}=51\quad บาท\)

    ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของราคาสินค้าในท้องที่ที่สองคือ

    \(\bar{X}=\frac{40+50+51+52+51+51+62+53+49}{9}=51\quad บาท\)

    จะเห็นว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตของราคาสินค้าของสองท้องที่เท่ากัน  การเปรียบเทียบการกระจายของราคาสินค้าในสองท้องที่สามารถใช้  ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยหรือส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้

    (ในกรณีที่ค่าเฉลี่ยเลขคณิตไม่เท่ากันไม่สามารถทำการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูล 2 ชุดโดยการใช้การกระจายสัมบูรณ์ได้)

    การหาการกระจายราคาสินค้าโดยการใช้ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย

    ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของท้องที่ที่หนึ่งเท่ากับ

    \(M.D.=\frac{1+1+6+4+3+3+2}{7}=\frac{20}{7}\approx 2.86\)

    ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของท้องที่ที่สองเท่ากับ

    \(M.D.=\frac{11+0+1+0+0+11+2+2}{9}=\frac{28}{9}\approx 3.11\)

    ดังนั้น ราคาสินค้าในท้องที่ที่สองมีการกระจายมากกว่าราคาสินค้าในท้องที่ที่หนึ่ง

    การหาการกระจายราคาสินค้าโดยการใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่

    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของท้องที่ที่หนึ่งเท่ากับ

    \(s=\sqrt{\frac{1+1+36+16+9+9+4}{6}}\approx 3.56\)

    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของท้องที่ที่สองเท่ากับ

    \(s=\sqrt{\frac{121+1+0+1+0+0+121+4+4}{8}}\approx 5.61\)

    ดังนั้นราคาสินค้าในท้องที่ที่สองมีการกระจายมากกว่าราคาสินค้าในท้องที่ที่หนึ่ง

    จากที่เราหาการกระจายของราคาสินค้าของสองท้องที่ ได้คำตอบเหมือนกันคือราคาสินค้าในท้องที่ที่สองมีการกระจายมากกว่าในท้องที่ที่หนึ่ง แต่ในทางปฏิบัติมักจะใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานครับ


    3. ค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลที่เป็นกลุ่มตัวอย่างของประชากรขนาด 20 รายการ ชุดหนึ่งเป็น 10 และ 2 ตามลำดับ ภายหลังพบว่ามีการบันทึกข้อมูลรายการหนึ่งผิดพลาดไป โดย 12 บันทึกเป็น 8 จงคำนวณหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ถูกต้อง

    วิธีทำ  การทำข้อนี้ไม่ยากครับ  จากโจทย์ตอนแรกโจทย์บอกว่า

    \(\bar{X}=10\)

    \(s=8  \)

    จากสูตรการหาค่าเฉลี่ยของตัวอย่าง

    \begin{array}{lcl}\bar{X}&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}x_{i}}{n}\\10&=&\frac{\sum_{i=1}^{20}}{20}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{20}&=&10\times 200\\\displaystyle\sum_{i=1}^{20}&=&200\end{array}

    ต่อโจทย์บอกว่ามีการบันทึกข้อมูลผิดพลาดไป โดย 12 แต่เขาบันทึกเป็น 8  แสดงว่าต้องบันทึกเพิ่มอีก 4 ใช่ไหมครับดังนั้น

    \(\sum_{x=1}^{20}=200+4\)  อันนี้คือผลรวมที่ถูกต้องครับ

    ดังนั้นค่าเฉลี่ยเลขคณิตที่ถูกต้องคือ

    \(\bar{X}=\frac{204}{20}=10.2\)

    ต่อไปหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานครับ

    ใช้สูตรนี้ในการหานะครับ เลือกใช้สูตรให้เหมาะสมนะครับ

    \(s=\sqrt{\frac{\sum_{i=1}^{n}x_{i}^{2}-n\bar{X}^{2}}{n-1}}\) 

    ลองแทนค่าตามที่โจทย์ให้มาลงไปในสูตรครับจะได้

    \(2=\sqrt{\frac{\sum_{i=1}^{20}x_{i}^{2}-20(10)^{2}}{20-1}}\)

    ทำการยกกำลังสองทั้งสองข้างครับจะได้

    \begin{array}{lcl}4&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{20}x_{i}^{2}-20(10)^{2}}{20-1}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{20}x_{i}^{2}&=&4\times 19+2000\\\displaystyle\sum_{i=1}^{20}x_{i}^{2}&=&2076\end{array} อันนี้ยังเป็นการคำนวณที่ผิดนะครับเพราะเขาบันทึกข้อมูลผิดครับที่ถูกต้องก็คือ จากเริ่มแรกที่เราคำนวณมา

    \(\bar{X}=200-8+12=204\)

    ดังนั้นผลรวม \(x_{i}^{2}\) ที่ถูกต้องคือ

    \(\sum_{i=1}^{20}=x_{i}^{2}=2076-(8)^{2}+(12)^{2}=2156\)

    ดังนั้นส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ถูกต้องคือ

    \begin{array}{lcl}s&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{20}x_{i}^{2}-n\bar{X}^{2}}{n-1}}\\&=&\sqrt{\frac{2156-20(10.2)^{2}}{20-1}}\\&=&\sqrt{\frac{75.2}{19}}\\&=&1.99\end{array}

    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ถูกต้องคือ 1.99

    ค่าเฉลี่ยที่ถูกต้องคือ 10.2


    9.ให้ \(x_{1},x_{2},x_{3},\cdots ,x_{5}\) เป็นข้อมูลชุดหนึ่งที่มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 6 ถ้า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}-4)^{2}=30\) จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้

    วิธีทำ เราก็หาคำตอบจากสิ่งที่โจทย์กำหนดให้นั่นแหละครับ โจทย์บอกว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับกับ 6 นั่นก็คือ

    \(\bar{X}=\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}}{5}=6\quad\cdots  (1)\)

    จากสมการที่\((1)\) จะได้ว่า

    \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}=30\quad\cdots  (2)\)

    และโจทย์ยังให้อันนี้เรามาอีกก็คือ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}-4)^{2}=30\) เราเอาอันนี้มากระจายจะได้

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}-4)^{2}&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}^{2}-8x_{i}+16)&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}-8\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=1}^{5}16&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}-8(30)+(16)(5)&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}&=&190\end{array}

    สิ่งที่เราหามาข้างบนก็เพื่อนำมาแทนค่าในสูตรของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก็คือสูตรนี้

    \[S.D.=\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\]

    ทำต่อเลยคับจะได้

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{190}{5}-6^{2}}\\&=&\sqrt{2}\quad\underline{Ans}\end{array}


    10. ถ้า \(x_{1},x_{2},\cdots ,x_{10}\) เป็นข้อมูลชุดหนึ่งซึ่ง \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}\) มีค่าน้อยที่สุดเท่ากับ \(M^{2}\) เมื่อ \(M=15\)  จงหาค่าของ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(2x_{i}+5)\) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้

    วิธีทำ สิ่งที่เราต้องรู้ข้อนี้ก็คือสมบัติของค่าเฉลี่ยเลขคณิตก็คือ ถ้า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}\) มีค่าน้อยที่สุดแล้ว เราจะได้ว่า \(M\) คือค่าเฉลี่ยเลขคณิต นั่นก็คือ

    \[\bar{X}=\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}}{10}=M=15\quad\cdot (1)\]

    จากสมการที่ \((1)\) เราจึงได้ว่า

    \[\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}=10\times 15=150\quad\cdots (2)\]

    ต่อไปโจทย์บอกว่า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}\) มีค่าเท่ากับ \(M^{2}\) ดังนั้นจะได้สมการนี้ออกมาคือ

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}&=&M^{2}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-15)^{2}&=&15^{2}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}^{2}-30x_{i}+225)&=&225\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}-30\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=1}^{10}225&=&225\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}-30(150)+(225)(10)&=&225\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}&=&2475\end{array}

    ตอนนี้เราได้ค่าต่างๆที่คำนวณมา ดังต่อไปนี้

    \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}=150\)

    \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}=2475\)

    \(\bar{X}=15\) 

    เรานำค่าที่เราได้มานี้มาคำนวณหาคำตอบกันเลยครับจะได้ดังนี้

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(2x_{i}+5)&=&2\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=1}^{10}5\\&=&2(150)+(5)(10)\\&=&300+50\\&=&350\quad\underline{Ans}\end{array}

    ต่อไปหา ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{2475}{10}-15^{2}}\\&=&\sqrt{22.5}\quad\underline{Ans}\end{array}


    11. ค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{1},x_{2},x_{3}\) เป็น 8 และ 3 ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูล \(x_{4},x_{5},x_{6}\) เป็น 10 และ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}=567\)  จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{4},x_{5},x_{6}\)

    วิธีทำ ข้อนี้เริ่มทำที่โจทย์บอกว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{1},x_{2},x_{3}\) มีค่าเท่ากับ 3  เราจะได้ดังนี้คือ

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\3&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}}{3}-(8)^{2}}\\9&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}}{3}-64\\\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}&=&219\quad\cdots (1)\end{array}

    และโจทย์บอกอีกว่า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}=567\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=4}^{6}x_{i}^{2}&=&\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}-\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}\\&=&567-219\\&=&384\quad\cdots (2)\end{array}

    จากสมการที่ \((1),(2)\) เราสามารถนำไปหาคำตอบได้แล้ว ก็คือ โจทย์ให้หาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{4},x_{5},x_{6}\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=4}^{6}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{384}{3}-10^{2}}\\&=&\sqrt{28}\quad\underline{Ans}\end{array}


    12.ในการสอบสัมภาษณ์นักเรียน 3 คน ปรากฎว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนเท่ากับ 53  มัธยฐานเท่ากับ 50 และพิสัยเท่ากับ 21 ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยในการสอบครั้งนี้เป็นเท่าใด

    วิธีทำ กำหนดให้ \(x_{1},x_{2},x_{3}\) เป็นข้อมูลที่เรียงจากน้อยไปหามาก ดังนั้นจึงได้ว่า \(x_{2}=50\)

    และโจทย์บอกว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 53 จึงได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\frac{x_{1}+50+x_{3}}{3}&=&53\\x_{1}+x_{3}&=&159-50\\x_{1}+x_{3}&=&109\quad\cdots (1)\end{array}

    และโจทย์ยังบอกอีกว่าพิสัยเท่ากับ 21 จึงได้ว่า

    \(x_{3}-x_{1}=21\quad\cdots (2)\)

    ต่อไปเพื่อจะหาค่าของ \(x_{1}\) กับ \(x_{3}\) ต้องเอาสมการที่ \((1)+(2)\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}(x_{1}+x_{3})+(x_{3}-x_{1})&=&109+21\\x_{3}&=&65\end{array}

    และแทนค่า \(x_{3}=65\) ในสมการที่ \((2)\) จะได้ว่า \(x_{1}=44\)

    ต่อไปเราต้องหาค่าพวกนี้ก่อน \(|x_{i}-\bar{X}|\) จะได้ว่า

    \(|44-53|=9\)

    \(|50-53|=3\)

    \(|65-53|=12\)

    ดังนั้น \(\displaystyle\sum_{i=1}^{3}|x_{i}-\bar{X}|=9+3+12=24\)

    ต่อไปหาค่าส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยเลยคับผม

    \begin{array}{lcl}M.D.&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}|x_{i}-\bar{X}|}{N}\\&=&\frac{9+3+12}{3}\\&=&8\quad\underline{Ans}\end{array}


    13. ข้อมูลชุดหนึ่งมี N ตัว มี 1 อยู่ \(X\%\) นอกนั้นเป็น \(0\) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้เท่ากับเท่าใด

    วิธีทำ  การทำข้อนี้เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดูแบบนี้นะคับ สมมติผมมีข้อมูลแบบนี้คือ

    \(1,1,1,1,0,0,0,0,0,0\)

    จากข้อมูลที่กำหนดให้จะเห็นว่ามีข้อมูล 1 อยู่ \(40\%\)  และได้ว่า

    \(\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}}{N}=\frac{4}{10}=\frac{40}{100}\)

    \(\bar{X}=\frac{4}{10}=\frac{40}{100}\)

    ดังนั้นเราจะได้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลนี้เท่ากับ

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{40}{100}-(\frac{40}{100})^{2}}\end{array}

    พอเห็นตัวอย่างข้างบนนี้หลายคนน่าจะมองเห็นวิธีการตอบของข้อนี้แล้วนะคับ ว่าจะตอบอย่างไร

    ดังนั้นข้อนี้เขาบอกว่ามีข้อมูล 1 อยู่ \(X\%\) จึงทำให้ได้ว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้เท่ากับ

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{X}{100}-(\frac{X}{100})^{2}}\end{array}

  • ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย

    ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย(mean deviation หรือ average deviation)  ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย คือ ค่าที่ใช้วัดการกระจายของข้อมูลที่ได้จากการเฉลี่ยค่าสัมบูรณ์ของความแตกต่างระหว่างค่าของข้อมูลแต่ละค่าจากค่ากลางของข้อมูลชุดนั้น ค่ากลางที่ใช้อาจเป็นค่าเฉลี่ยเลขคณิตหรือมัธยฐานก็ได้ แต่ส่วนมากนิยมใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต

    การหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลที่ไม่ได้แจกแจงความถี่

       ถ้า \(x_{1},x_{2},x_{3},\cdots ,x_{n}\) เป็นข้อมูลตัวอย่าง n  จำนวน และมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเป็น \(\bar{X}\) แล้ว

    \begin{array}{lcl} ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (M.D.) &=&\frac{|x_{1}-\bar{X}|+|x_{2}-\bar{X}|+|x_{3}+\bar{X}+\cdots +|x_{n}+\bar{X}|}{n}\\&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}|x_{i}-\bar{X}|}{n}\end{array}

    การหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลที่แจกแจงความถี่

      ถ้า \(x_{1},x_{2},x_{3},\cdots ,x_{k}\) เป็นจุดกึ่งกลางของอันตรภาคชั้นต่างๆ  k ชั้น ซึ่งมีความถี่  \(f_{1},f_{2},f_{3},\cdots ,f_{k}\) ตามลำดับ   n เป็นจำนวนข้อมูลตัวอย่างทั้งหมด และถ้าข้อมูลชุดนี้มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเป็น  \(\bar{X}\)  แล้ว สามารถคำนวณส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (โดยประมาณ) ได้จากสูตร

    \begin{array}{lcl} ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (M.D.)&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}|x_{i}-\bar{X}|}{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}}\\&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}|x_{i}-\bar{X}|}{n}\end{array}

    เมื่อ k  แทนจำนวนอันตรภาคชั้น

          \(f_{i}\)  แทนความถี่ของอันตรภาคชั้นที่ \(i\)

          \(x_{i}\)   แทนจุดกึ่งกลางของอันตรภาคชั้นที่ \(i\)

    ต่อไปเราลองมาทำแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ การหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่และการหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของที่แจกแจงความถี่

    สำหรับการหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่ให้อ่านตามลิงค์นี้ครับผมได้เขียนแสดงตัวอย่างให้ดูเยอะแล้วครับจะเป็นตัวอย่างที่รวมอยู่ในหัวข้อส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ค่อยๆอ่านครับส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์

    ต่อไปก็ไปดูแบบฝึกหัดเกี่ยวกับส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลที่แจกแจงความถี่

    1. จงหาส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์และส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของรายได้ชองคนงานหญิง 400 คน จากตารางแจกแจงความถี่ต่อไปนี้ แล้วเปรียบเทียบค่าที่ได้กับพิสัยของข้อมูลชุดนี้

    รายได้(บาท) จำนวนคนงาน (คน)
    1500-1599 20
    1600-1699 70
    1700-1799 120
    1800-1899 100
    1900-1999 60
    2000-2099 20
    2100-2199 10

    วิธีทำ ข้อนี้โจทย์ให้หาส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ และ ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย และข้อมูลที่เขาให้มาเป็นข้อมูลแบบแจกแจงความถี่  ดังนั้นต้องใช้สูตรนี้ครับ

    \begin{array}{lcl} ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (M.D.)&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}|x_{i}-\bar{X}|}{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}}\\&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}|x_{i}-\bar{X}|}{n}\end{array}

    เมื่อ k  แทนจำนวนอันตรภาคชั้น

          \(f_{i}\)  แทนความถี่ของอันตรภาคชั้นที่ \(i\)

          \(x_{i}\)   แทนจุดกึ่งกลางของอันตรภาคชั้นที่ \(i\)

    แสดงว่าเราต้องไปหาจุดกี่งกลางชั้น หาค่าเฉลี่ย และหาความถี่สะสม ความถี่สะสมนี้เอาไว้ไปใช้คำนวณในการหาควอร์ไทล์ การหาค่าควอร์ไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ให้ไปอ่านตามลิงค์นี้ครับควอร์ไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่

    รายได้ จุดกึ่งกลางชั้น \((x_{i})\) จำนวนคนงาน\((f_{i})\) ความถี่สะสม \(f_{i}x_{i}\) \(|x_{i}-\bar{X}|\) \(f_{i}|x_{i}-\bar{X}|\)
    1500-1599 1549.5 20 20 30990 252.5 5050
    1600-1699 1649.5 70 90 115465 152.5 10675
    1700-1799 1749.5 120 210 209940 52.5 6300
    1800-1899 1849.5 100 310 184950 47.5 4750
    1900-1999 1949.5 60 370 116970 147.5 8850
    2000-2099 2049.5 20 390 40990 247.5 4950
    2100-2199 2149.5 10 400 21495 347.5 3475
    total 400 total 720800 total 44050

    จากตาราง จะได้ว่า

    \(\bar{X}=\frac{720800}{400}=1802\)

    ตำแหน่งของ \(Q_{1}=\frac{1}{4}\times 400=100\)

    ดังนั้น \(Q_{1}\) อยู่ในอันตรภาคชั้นที่ 3  การหาควอร์ไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่อ่านได้ตามลิงค์นี้นะครับควอร์ไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่ จะได้

    \(Q_{1}=1699.5+\left(\frac{100-90}{120}\right)\times 100=1707.83\)

    ต่อไป

    ตำแหน่งของ \(Q_{3}=\frac{3}{4}\times 400=300\)

    ดังนั้น \(Q_{3}\) อยู่ในอันตรภาคชั้นที่ 4 จะได้

    \(Q_{3}=1799.5+\left(\frac{300-210}{100}\right)\times 100=1889.5\)

    ดังนั้น ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทลเท่ากับ

    \(\frac{1889.5-1707.83}{2}=\frac{181.67}{2}=90.835\) บาท

    ต่อไปหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยก็นำข้อมูลในตารางมาแทนค่าในสูตรเลยครับเพราะในตารางเราเตรียมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้วครับ

    จากสูตรการหาส่วนเบี่ยงเฉลี่ย

    \begin{array}{lcl} ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (M.D.)&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}|x_{i}-\bar{X}|}{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}}\\&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{k}f_{i}|x_{i}-\bar{X}|}{n}\\&=&\frac{44050}{400}\\&=&110.125\quad บาท\end{array}

    พิสัยเทากับ  2199.5-1499.5=700 บาท

    เปรียบเทีบบค่าของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์และส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยกับค่าพิสัยจะพบว่าพิสัยมีค่าสูงกว่าส่วนส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์และส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยมากครับ


    2. โรงเรียนแห่งหนึ่งมีครู 8 คน ซึ่งมีเงินเดือนดังนี้

    8430 , 9550 , 17920 , 19400 , 20290 , 20710 , 30210 , 32740 

    จงหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลชุดนี้

    วิธีทำ ข้อมูลชุดนี้เป็นข้อมูลที่ไม่มีการแจกแจงความถี่ จะได้

    \begin{array}{lcl}\bar{X}&=&\frac{8430 + 9550 + 17920 + 19400 + 20290+ 20710 + 30210+ 32740 }{8}\\&=&19906.25\end{array}

    ต่อไปหาค่าของ \(|x_{i}-\bar{X}|\) จะได้

    \(|8430-19906.25|=11476.25\)

    \(|9550-19906.25|=10356.25\)

    \(|17920-19906.25|=1986.25\)

    \(|19400-19906.25|=506.25\)

    \(|20290 -19906.25|=383.75\)

    \(|20710-19906.25|=803.75\)

    \(|30210-19906.25|=10303.75\)

    \(|32740-19906.25|=12833.75\)

    เพราะฉะนั้นจะได้

    \begin{array}{lcl}\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}|x_{i}-\bar{X}|}{n}&=&\frac{11476.25+10356.25+1986.25+506.25+383.75+803.75+10303.75+12833.75}{8}\\&=&6081.25\end{array}

    นั่นคือ ส่วนเบนเบนเฉลี่ยของเงินเดือนครูโรงเรียนแห่งนี้เท่ากับ 6081.25 บาท


    3.ในการสอบสัมภาษณ์นักเรียน 3 คน ปรากฎว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนเท่ากับ 53  มัธยฐานเท่ากับ 50 และพิสัยเท่ากับ 21 ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยในการสอบครั้งนี้เป็นเท่าใด

    วิธีทำ กำหนดให้ \(x_{1},x_{2},x_{3}\) เป็นข้อมูลที่เรียงจากน้อยไปหามาก ดังนั้นจึงได้ว่า \(x_{2}=50\)

    และโจทย์บอกว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 53 จึงได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\frac{x_{1}+50+x_{3}}{3}&=&53\\x_{1}+x_{3}&=&159-50\\x_{1}+x_{3}&=&109\quad\cdots (1)\end{array}

    และโจทย์ยังบอกอีกว่าพิสัยเท่ากับ 21 จึงได้ว่า

    \(x_{3}-x_{1}=21\quad\cdots (2)\)

    ต่อไปเพื่อจะหาค่าของ \(x_{1}\) กับ \(x_{3}\) ต้องเอาสมการที่ \((1)+(2)\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}(x_{1}+x_{3})+(x_{3}-x_{1})&=&109+21\\x_{3}&=&65\end{array}

    และแทนค่า \(x_{3}=65\) ในสมการที่ \((2)\) จะได้ว่า \(x_{1}=44\)

    ต่อไปเราต้องหาค่าพวกนี้ก่อน \(|x_{i}-\bar{X}|\) จะได้ว่า

    \(|44-53|=9\)

    \(|50-53|=3\)

    \(|65-53|=12\)

    ดังนั้น \(\displaystyle\sum_{i=1}^{3}|x_{i}-\bar{X}|=9+3+12=24\)

    ต่อไปหาค่าส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยเลยคับผม

    \begin{array}{lcl}M.D.&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}|x_{i}-\bar{X}|}{N}\\&=&\frac{9+3+12}{3}\\&=&8\quad\underline{Ans}\end{array}

  • โจทย์ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย

    วันนี้ผมจะพาทุกคนทำโจทย์ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานครับ ซึ่งก่อนส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคือค่าที่แสดงถึงการกระจายของข้อมูลครับ ที่ส่วนเบียงเบนมากแสดงว่าข้อมูลมีการกระจายมาก แต่ถ้าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานน้อยแสดงว่าข้อมูลมีการกระจายน้อยครับ  ซึ่งสูตรในการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานนั้น สามารถแบ่งได้ดังนี้คือ

    1. สูตรสำหรับการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานข้อมูลที่เป็นประชากร คือ

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}(x_{i}-\mu)^{2}}{N}}\end{array}

    หรือ

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-\mu^{2}}\end{array}

    เลือกใช้สูตรไหนก็ได้ครับขึ้นอยู่กับโจทย์ 

    เมื่อ \(\mu\)  คือ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของประชากร

    2. สูตรสำหรับการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานข้อมูลที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง คือ

    \begin{array}{lcl}s&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}(x_{i}-\bar{x})^{2}}{n-1}}\end{array}

    หรือ

    \begin{array}{lcl}s&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}x_{i}^{2}-n\bar{x}^{2}}{n-1}}\end{array}

     เมื่อ \(\bar{x}\) คือค่าเฉลี่ยเลขคณิตของกลุ่มตัวอย่าง

    มาดูโจทย์กันเลยครับ

     1.ข้อมูลชุดหนึ่งมี 8  จำนวน  ผลรวมของข้อมูลทั้งหมดเท่ากับ  48  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลมีค่าเท่ากับ  3  แล้วผลรวมของกำลังสองของข้อมูลมีค่าเท่าใด (360)

    วิธีทำ ข้อนี้โจทย์ถามตรงๆเลยครับไม่ยาก  ก็คือถามหา \(\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}\)   ดังนั้นควรใช้สูตรนี้ครับ

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-\mu^{2}}\end{array}

    เนื่องจากผลรวมข้อข้อมูลเท่ากับ 48 ดังนั้นค่าเฉลี่ยเลขคณิตจะหาได้คือ  \(\mu=\frac{48}{8}=6\)  แทนค่าทั้งหมดลงไปในสูตรด้านบนจะได้

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-\mu^{2}}\\3&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{8}x_{i}^{2}}{8}-6^{2}}\\9&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{8}x_{i}^{2}}{8}-36\\\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{8}x_{i}^{2}}{8}&=&45\\\displaystyle\sum_{i=1}^{8}x_{i}^{2}&=&360\end{array}

    ข้อนี้ตอบ 360 


    2.นักเรียน 2  คนสอบได้คะแนนเฉลี่ยเป็น  60  คะแนน  มีพิสัยเป็น  10  คะแนนแล้ว  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนของนักเรียนทั้ง       2  คนมีค่าเท่าใด (5)

    วิธีทำ ข้อนี้ค่อยๆทำตามที่โจทย์บอกมาครับ ให้คะแนนสอบนักเรียนสองคนเรียงจากน้อยไปหามากเป็น a,b จากโจทย์จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\mu&=&\frac{a+b}{2}\\60&=&\frac{a+b}{2}\\a+b&=&120\quad \cdots (1)\end{array}

    พิสัยมีค่าเป็น 10 คะแนนดังนั้นจึงได้ว่า

    \begin{array}{lcl}b-a&=&10 \cdots (2)\end{array}

    นำ \( (2)+(1)\) จะได้ 

    \begin{array}{lcl}2b&=&130\\b&=&65\end{array}

    ดังนั้นจะได้ \(a=55\)   จึงว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนนักเรียนสองคนนี้คือ

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}(x_{i}-\bar{x})^{2}}{N}}\\\sigma&=&\sqrt{\frac{(65-60)^{2}+(55-60)^{2}}{2}}\\\sigma&=&5\end{array}


    3. นักเรียน 2 คนสอบวิชาสถิติ  มีคะแนนเฉลี่ยเป็น  75  ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยเป็น  10  แล้วส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนทั้งสองมีค่าเท่าใด (10)

    วิธีทำ ข้อนี้ก็ทำตามที่โจทย์บอกมาเลยครับ ให้ a,b เป็นคะแนนสอบนักเรียนที่เรียงจากน้อยไปมากจะได้

    \begin{array}{lcl}\mu&=&\frac{a+b}{2}\\75&=&\frac{a+b}{2}\\a+b&=&150\end{array}

    ดังนั้น \(b=150-a\)

    จากโจทย์บอกว่า ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยเท่ากับ 10  จากสูตรในการหาส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยคือ

    \begin{array}{lcl}M.D.&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}|x_{i}-\mu|}{N}\\จะได้\\10&=&\frac{|a-75|+|b-75|}{2}\\10&=&\frac{|a-75|+|150-a-75|}{2}\\|a-75|+|150-a-75|&=&20\\-(a-75)+150-a-75&=&20\\-2a+150&=&20\\-2a&=&-130\\a&=&65\end{array}

    ดังนั้น

    \(b=85\)

    เมื่อหา ค่าของ \(a,b\) ได้แล้วก็สามารถหาส่วนเบี่ยงเบนได้ครับจะได้

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{(a-75)^{2}+(b-75)^{2}}{2}}\\&=&\sqrt{\frac{(65-75)^{2}+(85-75)^{2}}{2}}\\&=&\sqrt{100}\\&=&10\end{array}


    4.ข้อมูลชุดหนึ่งเรียงจากน้อยไปหามาก ดังนี้  a,3,5,7,b  ถ้าข้อมูลชุดนี้มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 7 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ\(2\sqrt{10}\) แล้วค่าของ 2a+b เท่ากับเท่าใด  (ข้อ 40 Pat 1 มี.ค. 57)

    วิธีทำ ข้อนี้ทำตามที่โจทย์บอกเลยครับ โจทย์บอกว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7 นั่นคือ

    \begin{array}{lcl}\frac{a+3+5+7+b}{5}&=&7\\a+b+15&=&35\\a+b&=&20\end{array}

    ดังนั้นเราจะได้ว่า

    \(b=20-a\)

    และโจทย์บอกว่าส่วนเบี่ยงเบนมาคือเท่า \(2\sqrt{10}\) ดังนั้นจะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}(x_{i}-\mu)^{2}}{N}}\\2\sqrt{10}&=&\sqrt{\frac{(a-7)^{2}+(3-7)^{2}+(5-7)^{2}+(7-7)^{2}+(b-7)^{2}}{5}}\\40&=&\frac{(a-7)^{2}+(3-7)^{2}+(5-7)^{2}+(7-7)^{2}+(b-7)^{2}}{5}\\200&=&(a-7)^{2}+16+4+(20-a-7)^{2}\\200-20&=&(a-7)^{2}+(13-a)^{2}\\180&=&a^{2}-14a+49+169-26a+a^{2}\\180&=&2a^{2}-40a+218\\90&=&a^{2}-20a+109\\0&=&a^{2}-20a+19\\0&=&(a-1)(a-19)\\so\\a=1,a=19\end{array}

    แต่ต้องใช้ \(a=1\) นะครับเพราะว่า \(a\) ต้องน้อยกว่า 3 นะ ดูที่โจทย์เขาเรียงข้อมูลจากน้อยไปหามากคือ a,3,5,7,b

    นั่นคือ \(a=1\) จะได้ \(b=20-a=20-1=19\)

    นั่นคือ ค่าของ \(2a+b=2(1)+19=21\) นั่นเองครับ ไม่ยากเท่าไรนะ


    5.ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบของนักเรียนกลุ่มหนึ่งเท่ากับ 72 คะแนน ความแปรปรวน(ประชากร) เท่ากับ 600 ถ้ามีนักเรียนมาเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งสอบได้ 60 คะแนน ทำให้ค่าเฉลี่ยเปลี่ยนเป็น 70 คะแนน ความแปรปรวนของข้อมูลชุดใหม่เท่ากับเท่าใด

    (ข้อ 42 Pat1 มี.ค.53)

    วิธีทำ  ข้อนี้ถ้าใครคิดไม่ออกก็ค่อยๆดูเฉลยครับ ผมจะหาจำนวนคนที่เข้าสอบหรือก็คือหา N ก่อนนะครับ  เริ่มเลย

    ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบของนักเรียนกลุ่มหนึ่งเท่ากับ 72 คะแนนนั่นหมายความว่า

    \begin{array}{lcl}\frac{ผลรวมของคะแนนสอบ}{N}&=&72\\ผลรวมของคะแนนสอบ&=&72N\end{array}

    ถ้ามีนักเรียนมาเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งสอบได้ 60 คะแนน ทำให้ค่าเฉลี่ยเปลี่ยนเป็น 70 คะแนน  นั่นหมายความว่า

    \begin{array}{lcl}\frac{ผลรวมของคะแนนสอบเมื่อมาสอบเพิ่มอีกหนึ่งคน}{N+1}=70\\ผลรวมของคะแนนสอบเมื่อมาสอบเพิ่มอีกหนึ่งคน&=&70(N+1)\end{array}

    คนที่มาสอบเพิ่มอีก 1 คนทำคะแนนสอบได้ 60 คะแนน นั่นหมายความว่า

    \begin{array}{lcl}70(N+1)-72N&=&60\\70N+70-72N&=&60\\-2N&=&-10\\N&=&5\end{array}

    นั่นก็คือมีคนเข้าสอบทั้งหมด 5 คนนั่นเองครับ

    และโจทย์บอกอีกว่าตอนสอบไปครั้งแรกความแปรปรวนเท่ากับ 600 นั่นคือ

    \begin{array}{lcl}600&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}}{5}-72^{2}\\600+72^{2}&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=5}x_{i}^{2}}{5}\\5784\times 5&=&\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}&=&28920\end{array}

    เก็บไว้ก่อนครับ ไปดูต่อ  ต่อไปโจทย์บอกว่ามีคนมาสอบเพิ่มอีก 1 คนและให้หาความแปรปรวนหลังจากที่มีคนมาสอบเพิ่มอีก 1 คนครับจะได้ความแปรปรวนหาได้ดังนี้คือ

    \begin{array}{lcl}\sigma^{2}&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}}{N}-\mu^{2}\\&=&\frac{28920+(60)^{2}}{6}-70^{2}\\&=&520\end{array}

    นั่นคือหลังจากที่มีคนมาสอบเพิ่มอีก 1 คนทำให้ความแปรปรวนมีค่าเป็น 520


    6.ถ้าความยาวรัศมีของวงกลม 10 วง มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 3 และมีความแปรปรวนเท่ากับ 5 แล้วผลรวมของพื้นที่วงกลมทั้ง 10 วงนี้มีค่าเท่าใด (Pat1 ก.ค.52 ข้อ 40)

    1.  \(90\pi\)
    2. \(95\pi\)
    3. \(140\pi\)
    4. \(340\pi\)

    วิธีทำ ข้อนีักำหนดให้ วงกลมแต่ละวงมีรัศมียาวเท่ากับ \(r_{i}\) ดงนั้นจะได้ว่าพื้นที่วงกลมทั้ง 10 วงคือ

    \begin{array}{lcl}\pi r_{1}^{2}+\pi r_{2}^{2}+\pi r_{3}^{2}+...+\pi r_{i}^{2}+...+\pi r_{10}^{2}&=&\pi (r_{1}^{2}+r_{2}^{2}+...r_{i}^{2}+...+r_{10}^{2})\\&=&\pi\displaystyle\sum_{i=1}^{10} r_{i}^{2}\quad (1)\end{array}

    เก็บสมการ \((1)\)ไว้ก่อนครับ ต่อไปโจทย์บอกว่าความแปรปรวนของรัศมีวงกลมนี้เท่ากับ 5 นั่นคือ จะได้

    \begin{array}{lcl}\sigma^{2}&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}r_{i}^{2}}{10}-\mu^{2}\\5&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}r_{i}^{2}}{10}-3^{2}\\5+9&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}r_{i}^{2}}{10}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}r_{i}^{2}&=&140\end{array}

    เอาค่าที่ได้นี้ไปแทนในสมการที่ \(1\) จึงได้ว่าสมวงกลม 10 วงนี้มีพื้นที่เท่ากับ

    \(140\pi\) ตารางหน่วย นั่นเองครับ


    7. กำหนดให้ \(x_{1},x_{2},\cdots ,x_{11}\) เป็นข้อมูล 11 จำนวนซึ่งเรียงค่าจากน้อยไปมาก ถ้าข้อมูลชุดนี้มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับมัธยฐาน และส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยเท่ากับ 5.2 โดยที่ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}=42.8\) แล้ว \(\displaystyle\sum_{i=6}^{11}x_{i}\) มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้ (A-NET มี.ค.52 ข้อ 24)

    1. 100

    2. 114.28

    3. 142.28

    4. 157.20

    วิธีทำ ข้อนี้ไม่ยากแต่ต้องออกแรกเขียนเยอะหน่อยครับ ข้อนี้จากโจทย์จะได้ว่า มัธยฐานคือ \(x_{6}\) นั่นเอง ดังนั้นจะได้ว่า \(\bar{x}=x_{6}\) ทำต่อเลยครับเริ่มจากสิ่งที่โจทย์บอกนั่นแหละครับ

    \begin{array}{lcl}\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{11}x_{i}}{11}&=&x_{6}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=6}^{11}x_{i}&=&11x_{6}\\42.8+\displaystyle\sum_{i=6}^{11}&=&11x_{6}\\\displaystyle\sum_{i=6}^{11}x_{i}&=&11x_{6}-42.8 \quad\cdots (1)\end{array}

    เก็บสมการ \((1)\) ไว้ก่อนครับ ต่อไปโจทย์บอกว่า \(M.D.=5.2\) นั่นก็คือ

    \begin{array}{lcl}M.D.&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{n}|x_{i}-\bar{x}|}{n}\\5.2&=&\frac{|x_{1}-x_{6}|+|x_{2}-x_{6}|+\cdots +|x_{1}-x_{11}|}{11}\\5.2\times 11&=&-(x_{1}-x_{6})-(x_{2}-x_{6})-...-(x_{5}-x_{6})+(x_{6}-x_{6})+(x_{7}-x_{6})+...+(x_{11}-x_{6})\\57.2&=&-(x_{1}-x_{6})-(x_{2}-x_{6})-...-(x_{5}-x_{6})+0+(x_{7}-x_{6})+...+(x_{11}-x_{6})\\57.2&=&-\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}+5x_{6}+\displaystyle\sum_{i=7}^{11}x_{i}-5x_{6}\\57.2&=&-42.8+\displaystyle\sum_{i=7}^{11}x_{i}\\\displaystyle\sum_{i=7}^{11}x_{i}&=&100\quad \cdots (2)\end{array}

    จากสมการ \((1)\) คือ

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=6}^{11}x_{i}&=&11x_{6}-42.8\\x_{6}+\displaystyle\sum_{i=7}^{11}x_{i}&=&11x_{6}-42.8\\x_{6}+100&=&11x_{6}-42.8\\10x_{6}&=&142.8\\x_{6}&=&14.28\end{array}

    เริ่มหาคำตอบกันครับ โจทย์บอกให้หาค่า \(\displaystyle\sum_{i=6}^{11}x_{i}\) 

    จากสมการที่ \((1)\) และค่าของ \(x_{6}\) ที่เราหาไว้แล้วเราก็จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=6}^{11}x_{i}&=&11x_{6}-42.8\\&=&11(14.28)-42.8\\&=&114.28\end{array}


    8. ลูกเต๋า 3 ลูก มีความยาวของด้านแต่ละลูกแตกต่างกัน ถ้านำลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกวางซ้อนกันจะสูง 6 เซนติเมตร และทาสีของลูกเต๋าทุกด้านและทุกลูกจะได้พื้นที่รวมกัน 84 ตารางเซนติเมตร แล้วส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความยาวของด้านของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกมีค่าเท่าใด

    วิธีทำ  ให้ลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก มีความยาวด้านเท่ากับ a,b และ c  ตามลำดับ

    โจทย์บอกว่า ถ้านำลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกวางซ้อนกันจะสูง 6 เซนติเมตร นั่นคือ  \[a+b+c=6\quad\cdots (1)\]

    โจทย์บอกอีกว่า ทาสีของลูกเต๋าทุกด้านและทุกลูกจะได้พื้นที่รวมกัน 84 ตารางเซนติเมตร ตรงนี้ถ้าใครเคยเห็นลูกเต๋า จะเห็นว่าลูกเต๋ามีทั้งหมด 6 หน้า และเราให้ลูกเต๋าลูกแรกมีความยาวด้านเท่ากับ \(a\) ดั้งนั้นเราสามารถหาพื้นที่หน้าลูกเต่าได้คือ 

    เอาด้าน คูณ  ด้าน  นั่นก็คือ \(a\times a\)  แต่ลูกเต๋ามันมี 6 หน้าดังนั้นพื้นที่ของลูกเต่าทั้งลูกคือ \(6a^{2}\) และอีกสองลูกที่เหลือก็ทำเหมือนกันก็จะมีพื้นที่เป็น \(6b^{2}\) และ \(6c^{2}\)  ตามลำดับ นั่นคือมีพื้นที่รวมกัน

    \begin{array}{lcl}6a^{2}+6b^{2}+6c^{2}&=&84\\6(a^{2}+b^{2}+c^{2})&=&84\\a^{2}+b^{2}+c^{2}&=&\frac{84}{6}\\a^{2}+b^{2}+c^{2}&=&14 \quad \cdots (2)\end{array}

    จากสมการที่สองเราสามารถเขียนใหม่ได้นะก็คือ \[\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}=14\]

    ดังนั้นจาก สมการที่ \((1)\) และ \((2)\) เราสามรถหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้แล้วครับ โดยหาจากสูตรนี้ครับ

    \[\sigma=\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-\mu^{2}}\]

    จากสูตรนะครับ จะเห็นว่า \(\mu\) คือค่าเฉลี่ยเลขคณิตของประชากรในที่นี้ก็คือค่าเฉลี่ยเลขคณิตของความยาวด้านของลูกเต๋านั้นเองครับจะได้

    \[\mu=\frac{a+b+c}{3}=\frac{6}{3}=2\]

    เอาไปแทนค่าในสูตรส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเลยครับ

    \begin{array}{lcl}\sigma&=&\sqrt{\frac{14}{3}-2^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{14}{3}-4}\\&=&\sqrt{\frac{14-12}{3}}\\&=&\sqrt{\frac{2}{3}}\quad\underline{Ans}\end{array}


    แบบฝึกหัดมาเสริมครับ เป็นแบบฝึกหัดที่เกี่ยวกับส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นโจทย์ที่เกี่ยวกับส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต โจทย์อาจจะยากนะคับต้องตั้งใจอ่านนิดหนึ่ง

    9.ให้ \(x_{1},x_{2},x_{3},\cdots ,x_{5}\) เป็นข้อมูลชุดหนึ่งที่มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 6 ถ้า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}-4)^{2}=30\) จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้

    วิธีทำ เราก็หาคำตอบจากสิ่งที่โจทย์กำหนดให้นั่นแหละครับ โจทย์บอกว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับกับ 6 นั่นก็คือ

    \(\bar{X}=\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}}{5}=6\quad\cdots  (1)\)

    จากสมการที่\((1)\) จะได้ว่า

    \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}=30\quad\cdots  (2)\)

    และโจทย์ยังให้อันนี้เรามาอีกก็คือ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}-4)^{2}=30\) เราเอาอันนี้มากระจายจะได้

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}-4)^{2}&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}(x_{i}^{2}-8x_{i}+16)&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}-8\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=1}^{5}16&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}-8(30)+(16)(5)&=&30\\\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}&=&190\end{array}

    สิ่งที่เราหามาข้างบนก็เพื่อนำมาแทนค่าในสูตรของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก็คือสูตรนี้

    \[S.D.=\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\]

    ทำต่อเลยคับจะได้

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{5}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{190}{5}-6^{2}}\\&=&\sqrt{2}\quad\underline{Ans}\end{array}


    10. ถ้า \(x_{1},x_{2},\cdots ,x_{10}\) เป็นข้อมูลชุดหนึ่งซึ่ง \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}\) มีค่าน้อยที่สุดเท่ากับ \(M^{2}\) เมื่อ \(M=15\)  จงหาค่าของ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(2x_{i}+5)\) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้

    วิธีทำ สิ่งที่เราต้องรู้ข้อนี้ก็คือสมบัติของค่าเฉลี่ยเลขคณิตก็คือ ถ้า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}\) มีค่าน้อยที่สุดแล้ว เราจะได้ว่า \(M\) คือค่าเฉลี่ยเลขคณิต นั่นก็คือ

    \[\bar{X}=\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}}{10}=M=15\quad\cdot (1)\]

    จากสมการที่ \((1)\) เราจึงได้ว่า

    \[\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}=10\times 15=150\quad\cdots (2)\]

    ต่อไปโจทย์บอกว่า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}\) มีค่าเท่ากับ \(M^{2}\) ดังนั้นจะได้สมการนี้ออกมาคือ

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-M)^{2}&=&M^{2}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}-15)^{2}&=&15^{2}\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(x_{i}^{2}-30x_{i}+225)&=&225\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}-30\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=1}^{10}225&=&225\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}-30(150)+(225)(10)&=&225\\\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}&=&2475\end{array}

    ตอนนี้เราได้ค่าต่างๆที่คำนวณมา ดังต่อไปนี้

    \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}=150\)

    \(\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}=2475\)

    \(\bar{X}=15\) 

    เรานำค่าที่เราได้มานี้มาคำนวณหาคำตอบกันเลยครับจะได้ดังนี้

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=1}^{10}(2x_{i}+5)&=&2\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}+\displaystyle\sum_{i=1}^{10}5\\&=&2(150)+(5)(10)\\&=&300+50\\&=&350\quad\underline{Ans}\end{array}

    ต่อไปหา ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{2475}{10}-15^{2}}\\&=&\sqrt{22.5}\quad\underline{Ans}\end{array}


    11. ค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{1},x_{2},x_{3}\) เป็น 8 และ 3 ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูล \(x_{4},x_{5},x_{6}\) เป็น 10 และ \(\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}=567\)  จงหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{4},x_{5},x_{6}\)

    วิธีทำ ข้อนี้เริ่มทำที่โจทย์บอกว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{1},x_{2},x_{3}\) มีค่าเท่ากับ 3  เราจะได้ดังนี้คือ

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\3&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}}{3}-(8)^{2}}\\9&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}}{3}-64\\\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}&=&219\quad\cdots (1)\end{array}

    และโจทย์บอกอีกว่า \(\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}=567\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\displaystyle\sum_{i=4}^{6}x_{i}^{2}&=&\displaystyle\sum_{i=1}^{6}x_{i}^{2}-\displaystyle\sum_{i=1}^{3}x_{i}^{2}\\&=&567-219\\&=&384\quad\cdots (2)\end{array}

    จากสมการที่ \((1),(2)\) เราสามารถนำไปหาคำตอบได้แล้ว ก็คือ โจทย์ให้หาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล \(x_{4},x_{5},x_{6}\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=4}^{6}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{384}{3}-10^{2}}\\&=&\sqrt{28}\quad\underline{Ans}\end{array}


    12.ในการสอบสัมภาษณ์นักเรียน 3 คน ปรากฎว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนเท่ากับ 53  มัธยฐานเท่ากับ 50 และพิสัยเท่ากับ 21 ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยในการสอบครั้งนี้เป็นเท่าใด

    วิธีทำ กำหนดให้ \(x_{1},x_{2},x_{3}\) เป็นข้อมูลที่เรียงจากน้อยไปหามาก ดังนั้นจึงได้ว่า \(x_{2}=50\)

    และโจทย์บอกว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 53 จึงได้ว่า

    \begin{array}{lcl}\frac{x_{1}+50+x_{3}}{3}&=&53\\x_{1}+x_{3}&=&159-50\\x_{1}+x_{3}&=&109\quad\cdots (1)\end{array}

    และโจทย์ยังบอกอีกว่าพิสัยเท่ากับ 21 จึงได้ว่า

    \(x_{3}-x_{1}=21\quad\cdots (2)\)

    ต่อไปเพื่อจะหาค่าของ \(x_{1}\) กับ \(x_{3}\) ต้องเอาสมการที่ \((1)+(2)\) จะได้ว่า

    \begin{array}{lcl}(x_{1}+x_{3})+(x_{3}-x_{1})&=&109+21\\x_{3}&=&65\end{array}

    และแทนค่า \(x_{3}=65\) ในสมการที่ \((2)\) จะได้ว่า \(x_{1}=44\)

    ต่อไปเราต้องหาค่าพวกนี้ก่อน \(|x_{i}-\bar{X}|\) จะได้ว่า

    \(|44-53|=9\)

    \(|50-53|=3\)

    \(|65-53|=12\)

    ดังนั้น \(\displaystyle\sum_{i=1}^{3}|x_{i}-\bar{X}|=9+3+12=24\)

    ต่อไปหาค่าส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยเลยคับผม

    \begin{array}{lcl}M.D.&=&\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{3}|x_{i}-\bar{X}|}{N}\\&=&\frac{9+3+12}{3}\\&=&8\quad\underline{Ans}\end{array}


    13. ข้อมูลชุดหนึ่งมี N ตัว มี 1 อยู่ \(X\%\) นอกนั้นเป็น \(0\) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้เท่ากับเท่าใด

    วิธีทำ  การทำข้อนี้เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดูแบบนี้นะคับ สมมติผมมีข้อมูลแบบนี้คือ

    \(1,1,1,1,0,0,0,0,0,0\)

    จากข้อมูลที่กำหนดให้จะเห็นว่ามีข้อมูล 1 อยู่ \(40\%\)  และได้ว่า

    \(\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}}{N}=\frac{4}{10}=\frac{40}{100}\)

    \(\bar{X}=\frac{4}{10}=\frac{40}{100}\)

    ดังนั้นเราจะได้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลนี้เท่ากับ

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{10}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{40}{100}-(\frac{40}{100})^{2}}\end{array}

    พอเห็นตัวอย่างข้างบนนี้หลายคนน่าจะมองเห็นวิธีการตอบของข้อนี้แล้วนะคับ ว่าจะตอบอย่างไร

    ดังนั้นข้อนี้เขาบอกว่ามีข้อมูล 1 อยู่ \(X\%\) จึงทำให้ได้ว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้เท่ากับ

    \begin{array}{lcl}S.D.&=&\sqrt{\frac{\displaystyle\sum_{i=1}^{N}x_{i}^{2}}{N}-(\bar{X})^{2}}\\&=&\sqrt{\frac{X}{100}-(\frac{X}{100})^{2}}\end{array}

    สามารถศึกษาเกี่ยวกับโจทย์พวกความแปรปรวนจากลิงค์ต่อไปนี้

    เฉลย Pat 1 เรื่องโจทย์ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย

    การหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความแปรปรวนเมื่ออ่านข้อมูลผิด

    โจทย์ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย

    แบบฝึกหัดการหาความแปรปรวนของข้อมูลหลายชุด

    แบบฝึกหัดการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและความแปรปรวนเมื่อมีการอ่านข้อมูลผิดพลาด

    ความแปรปรวน