การแก้โจทย์ปัญหาสมการกำลังสองตัวแปรเดียว นั้นมีขั้นตอนคร่าวๆที่จะขอสรุปให้ดังต่อไปนี้
1.อ่านและวิเคราะห์โจทย์ คร่าวว่า โจทย์ให้อะไรมาบ้าง และถามหาอะไรครับ
2. กำหนดตัวแปร หลักการกำหนดตัวแปร คือ โจทย์ถามหาอะไรก็ให้ตัวนั้นเป็นตัวแปร เช่น โจทย์ถามว่าความยาวของด้านสี่เหลี่ยมรูปนี้ยาวเท่าไร หลักการกำหนดตัวแปรคือ ให้สี่เหลี่ยมรูปนี้มีความยาว x หน่วย
3.หลักการที่สามสำคัญมากเป็นการสร้างตัวแบบสมการขึ้นมา จากเงื่อนไขที่โจทย์กำหนดมาให้
4.แก้สมการจากข้อที่ 3 ที่เราขึ้นมาครับ
5.ตรวจสอบคำตอบ ดูความสมเหตุสมผลของคำตอบ
มาเริ่มทำแบบฝึกหัดกันเลยครับ เฉลยให้ดูเป็นบ้างข้อน่ะ เป็น guide line ให้เดินตาม พยายามทำเองน่ะ ไม่ยากจำหลักให้ได้ก็สบายแล้ว
แบบฝึกหัด
1.รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่รูปหนึ่งมีพื้นที่ 441 ตารางเซนติเมตร จงหาว่ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็กที่มีความยาวของด้านน้อยกว่ารูปใหญ่ด้านละ 3 เซนติเมตร จะมีพื้นที่กี่ตารางเซนติเมตร
วิธีทำ วิเคราะห์โจทย์ จากโจทย์ให้หาพื้นของสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็ก แต่ก่อนจะหาพื้นที่รูปเล็กได้ต้องหาความยาวของด้านของสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่ให้ได้ก่อน
ในการที่เราจะหาพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสได้เราต้องรู้ความยาวของด้านของสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดังนั้นจะกำหนดตัวแปรดังนี้ ให้สี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่มีความยาวด้านยาว \(x \)เซนติเมตร
สร้างตัวแบบสมการจากเงื่อนไขของโจทย์
จากโจทย์บอกว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่มีพื้นที่ \(441 \)ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ของสี่เหลี่ยมจัตุรัสหาได้จาก ด้าน \(\times \)ด้าน จะได้
\(x\times x = 441 \)
\(x^{2}=441\)
\(\sqrt{x^{2}}=\sqrt{441}\)
\(x=21\)
ดังนั้นจะได้ว่ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่มีด้านยาวด้านละ \(21\)เซนติเมตร
แต่ยังไม่ใช่คำตอบน่ะครับ โจทย์ให้หาพื้นที่ของสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็ก โดยความยาวด้านของสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่มีความสัมพันธ์กับความยาวด้านของสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็ก คือ สี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็กมีความยาวด้านยาวน้อยกว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่ด้านละ 3 เซนติเมตร ดังนั้น
จะได้ว่า สี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็กมีด้านยาว ยาวด้านละ\(21-3=18\)
นั้นคือสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็กมีด้านยาวด้านละ \(18\)เซนติเมตร
ดังนั้น สี่เหลี่ยมรูปเล็กมีพื้นที่ \(18 \times 18= 324\)ตารางเซนติเมตร
2. รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากรูปหนึ่งมีด้านยาว ยาวกว่าด้านกว้าง 3 เซนติเมตร และมีพื้นที่เป็น 40 ตารางเซนติเมตร จงหาความกว้างของรูปสี่เหลี่ยม
วิธีทำ โจทย์ถามหาความกว้างของรูปสี่เหลี่ยม ดังนั้นเราก็กำหนดตัวแปรว่า
ให้สี่เหลี่ยมมีความกว้าง \(x\)เซนติเมตร
จากเงื่อนไข โจทย์บอกว่ามีด้านยาว ยาวกว่าด้านกว้าง \(3\)เซนติเมตร ดังนั้น รูปสี่เหลี่ยมรูปนี้มีด้านยาว ยาว \(x+3\)เซนติเมตร
และมีพื้นที่ \(40\)ตารางเซนติเมตร นั้นคือ
กว้าง \(\times \)ยาว \(=40\)
\begin{array}{lcl}x(x+3)&=&40\\x^{2}+3x&=&40\\x^{2}+3x-40&=&0\\(x+8)(x-5)&=&0\end{array}
ดังนั้น
\(x=-8\) หรือ \(x=5\)
\(x=-8\) ใช้ไม่ได้น่ะครับ เพราะความยาวติดลบไม่ได้
ดังนั้น ความกว้างของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากคือ \(5\)เซนติเมตรครับ
3. รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีความสูงเป็นครึ่งหนึ่งของความยาวของด้าน ถ้าความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมเท่ากับพื้นที่พอดี จงหาความยาวของด้านของรูปสี่เหลี่ยมรูปนี้
วิธีทำ กำหนดตัวแปรคับ โจทย์ให้หาความยาวของด้านสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
เราก็กำหนดตัวแปร ให้สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีความยาวด้าน\(x \)หน่วย
ดูเงื่อนไขของโจทย์ โจทย์บอกว่า สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีความสูงเป็นครึ่งหนึ่งของความยาวของด้าน
เราให้สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีความยาวด้านละ \(x \)หน่วย ดังนั้น สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนนี้มีความสูงเป็น \(\frac{x}{2}\) หน่วย
และมีเงื่อนไขต่ออีกว่า ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมเท่ากับพื้นที่ของรูปพอดี
คุณสมบัติของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน คือ มีความยาวของด้านทั้งสี่ด้านเท่ากันหมด
เราให้ด้านของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนยาว \(x\) หน่วย คือแต่ละด้านยาว \(x\) หน่วย มี 4 ด้านดังนั้น ทั้งสี่ด้านยาวรวมกัน เท่ากับ \(x+x+x+x=4x\) นั้นคือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีความยาวรอบรูปเป็น \(4x\) หน่วย
พื้นที่ ของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนหาได้จาก ความยาวฐาน \(\times \)สูง
นั้นคือ \(x\times \frac{x}{2}\) เงื่อนไขบอกว่า ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมเท่ากับพื้นที่ของรูปพอดี
จะได้ว่า
\begin{array}{lcl}4x&=&x \frac{x}{2}\\4x&=&\frac{x^{2}}{2}\\8x&=&x^{2}\\x^{2}-8x&=&0\\x(x-8)&=&0\end{array}
นั่นคือ \(x=0\) หรือ \(x=8\)
\(x=0\)ใช้ไม่ได้ เพราะความยาวสี่เหลี่ยมเป็น ศูนย์ไม่ได้
ดังนั้นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีด้านยาวยาวด้านละ \(8\)หน่วย
4. ให้ผลคูณของจำนวนเต็มสองจำนวนที่เรียงติดกันเท่ากับ \(420\) จงหาจำนวนทั้งสองจำนวนนั้น
วิธีทำ ข้อนี้ง่ายมากๆครับ ให้เราสังเกตจำนวนเต็มสองจำนวนติดกัน เช่น 12 กับ 13
จะเห็นว่า 13 คือ 12+1 คือเพิ่มขึ้นมา 1 นั่นเองครับ ดังนั้นเราสมมติตัวแปรกันเลย
กำหนดให้จำนวนเต็มตัวแรกคือ \(x\)
จึงได้ว่าจำนวนเต็มที่ติดกับตัวแรกคือ \(x+1\)
ผลคูณสองจำนวนนี้เท่ากับ \(420\) จึงได้สมการ
\(x(x+1)=420\) แกสมการหาสองจำนวนนี้เลยครับจะได้ว่า
\begin{array}{lcl}x(x+1)&=&420\\x^{2}+x-420&=&0\\(x+21)(x-20)&=&0\end{array}
ดังนั้นจะได้
\(x+21=0\) หรือ \(x-20=0\)
กรณี
\(x+21=0\) จะได้
\(x=-21\)
กรณี
\(x-20=0\) จะได้
\(x=20\)
ดังนั้น
ถ้า \(x=20\) จะได้ว่า \(x+1=20+1=21\)
คำตอบที่เราได้คือ 20 กับ 21 จะเห็นว่า \(20\times 21=420\)
ถ้า \(x=-21\) จะได้ว่า \(x+1=-21+1=-20\)
คำตอบที่เราได้คือ -21 กับ -20 จะเห็นว่า \(-21\times -20=420\)
คำตอบทั้งหมดคือ จำนวนเต็มสองจำนวนนั้น 20 กับ 21 หรือ -20 กับ -21
5. ให้ผลคูณของจำนวนคี่บวกจำนวนหนึ่งกับจำนวนคี่บวกอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ถัดไปเป็น 323 จงหาจำนวนคี่ทั้งสองจำนวนนั้น
วิธีทำ ทำเหมือนกันกับข้อข้างบน
สมมติเราจำนวนคี่บวกตัวแรกคือ 5 ต้องบวกเพิ่มอีก 2 จึงจะได้จำนวนคี่บวกตัวที่สองก็คือ 7 ดังเราสามารถสมมติตัวแปรได้ดังนี้
กำหนดให้จำนวนคี่บวกตัวแรกคือ \(x\)
จำนวนคี่บวกตัวที่สองที่อยู่ถัดไปคือ \(x+2\)
จากโจทย์จะได้ว่า
\(x(x+2)=323\)
เริ่มแก้สมการจะได้
\begin{array}{lcl}x(x+2)=323\\x^{2}+2x-323&=&0\\(x+19)(x-17)&=&0\end{array}
จะได้
\(x+19=0\rightarrow x=-19\) หรือ \(x-17=0\rightarrow x=17\)
โจทย์บอกว่าจำนวนคี่บวก ดังนั้นใช้ได้ตัวเดียวคือ \(x=17\) อีกตัวต้องเป็น \(19\) ซึ่งจะเห็นว่า \(17\times 19=323\)
6. จำนวนสองจำนวนต่างกันอยู่ 3 และผลบวกของกำลังสองของจำนวนทั้งสองเป็น 117 จงหาจำนวนทั้งสองจำนวนนั้น
วิธีทำ ให้จำนวนแรกคือ \(x\) สองจำนวนนี้ต่างกันอยู่ 3 ดังนั้นจึงได้ว่า
จำนวนที่สองต้องเป็น \(x+3\)
โจทย์บอกว่าผลบวกของกำลังสองของทั้งสองจำนวนนี้เป็น 117 จึงได้ว่า
\(x^{2}+(x+3)^{2}=117\)
เริ่มแก้สมการกันเลยคับ
\begin{array}{lcl}x^{2}+(x+3)^{2}&=&117\\x^{2}+x^{2}+6x+9-117&=&0\\2x^{2}+6x-108&=&0\\x^{2}+3x-54&=&0\\(x-9)(x-6)&=&0\end{array}
จะได้
\(x+9=0\rightarrow x=-9\) หรือ \(x-6)=0\rightarrow x=6\)
ดังนั้น ถ้าตัวแรกเท่ากับ\(-9\) ตัวที่สองจะเท่ากับ \(-6\) เพราะจำนวนสองจำนวนนี้ต่างกันอยู่ 3 และผลบวกของกำลังสองของสองจำนวนนี้เท่ากับ 117 กล่าวคือ \((-9)^{2}+(-6)^{2}=117\)
อีกอันคือ
ถ้าตัวแรกเท่ากับ \(6\) ตัวที่สองจะเท่ากับ \(9\) เพราะจำนวนสองจำนวนนี้ต่างกันอยู่ 3 และผลบวกของกำลังสองของสองจำนวนนี้เท่ากับ 117 กล่าวคือ \(9^{2}+6^{2}=117\)
ตอบ จำนวนสองจำนวนนั้นคือ \(9\) กับ \(6\) หรือ \(-9\) กับ \(-6\)