• ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ม.5

    การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตเป็นการหาค่ากลางของข้อมูล  ซึ่งเชื่อว่าหลายคนโดยเฉพราะ ม.5 น่าจะหาได้ดังนั้นในบทความนี้จึงไม่ขออธิบายอะไรมากแต่จะนำโจทย์ที่เกี่ยวกับค่าเฉลี่ยเลขคณิตมาพาทำ ใครอ่านไม่เข้าใจก็พยายามอ่านหลายๆรอบแลัวกัน

  • ค่าเฉลี่ยเลขคณิต(arithmetic mean)

    ค่าเฉลี่ยเลขคณิต หรือ ค่าเฉลี่ย คือ จำนวนที่ได้จากผลรวมของข้อมูลทั้งหมดหารด้วยจำนวนชุดของข้อมูล 

    สัญลักษณ์ที่ใช้แทนค่าเฉลี่ยคือ \(\overline{x}\)

  • ฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์ (11)

    1. ห้องเรียนห้องหนึ่งมีนักเรียนชายสูงโดยเฉลี่ย 172  เซนติเมตร ส่วนนักเรียนหญิงเฉลี่ยสูง 152 เซนติเมตร ถ้านักเรียนห้องนี้เฉลี่ยสูง  160 เซนติเมตร อัตราส่วนจำนวนชายต่อจำนวนนักเรียนหญิงเป็นเท่าใด

    วิธีทำข้อนี้เป็นเรื่องของ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ไม่ยากมากนัก ลองๆอ่านกันดูนะคับ

    กำหนดให้

    \(\sum M\) คือความสูงรวมของนักเรียนชายทั้งหมด

    \(M\) คือจำนวนนักเรียนชายทั้งหมด

    \(\sum F\) คือความสูงรวมของนักเรียนหญิงทั้งหมด

    \(F\) คือ จำนวนนักเรียนหญิงทั้งหมด

    จากโจทย์เราจะได้ว่า

    \(172=\frac{\sum M}{M}\) จะได้ \(\sum M=172M\)

    \(152=\frac{\sum F}{F}\) จะได้ \(\sum F=152F\)

    และจากโจทย์จะได้ความสูงรวมของนักเรียนทั้งห้องคือ 

    \(\frac{\sum M+\sum F}{M+F}=160\quad \cdots (1)\)

    ลองเอาสมการ \((1)\) ไปจัดดูจะได้แบบนี้

    \begin{array}{lcl}\frac{\sum M+\sum F}{M+F}&=&160\\\sum M+\sum F&=&160(M+F)\\172M+152F&=&160M+160F\\172M-160M&=&160F-152F\\12M&=&8F\\\frac{M}{F}&=&\frac{8}{12}\\\frac{M}{F}&=&\frac{2}{3}\end{array}

    นั่นก็คืออัตราส่วนจำนวนนักเรียนชายต่อจำนวนนักเรียนหญิงเท่ากับ \(2:3\)

     

  • ฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์ (27)

    27. ข้อมูลชุดหนึ่งเรียงจากน้อยไปหามากดังนี้ \(1,1,1,a,4,4,5,6,8,10,b\) ค่าฐานนิยมมีค่าเดียว และค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ \(5\) แล้ว \(b-a\) จะมีค่าเป็นจำนวนเต็มน้อยที่สุดเท่ากับเท่าใด

    1. 7
    2. 8
    3. 9
    4. 10

    วิธีทำ เรามาวิเคราะห์โจทย์ข้อนี้คร่าวๆก่อน จะเห็นได้ว่า ค่า \(a\) ที่เป็นไปได้คือ \(1,2,\) และ \(3\)  จะเห็นว่า \(a\) เป็น \(4\) ไม่ได้นะคับ เพราะจะทำข้อมูลนี้มีฐานนิยม 2 ตัว  ที่เราก็เริ่มทำจากสิ่งที่โจทย์ให้มาก่อนคือ ค่าเฉลี่ยข้อมูลชุดนี้เท่ากับ \(5\) นั่นก็คือ

    \begin{array}{lcl}\frac{1+1+1+a+4+4+5+6+8+10+b}{11}&=&5\\\frac{40+a+b}{11}&=&5\\a+b&=&(5\times 11)-40\\a+b&=&15\end{array}

    จะเห็นได้ว่าข้อนี้ เมื่อนำ \(a\) ไปบวกกับ \(b\) ค่าที่ได้ต้องเท่ากับ 15 เท่านั้น ฉะนั้น

    ถ้าผมให้ \(b=10\) จะได้ \(a=5\) ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ \(a\) จะเท่ากับ 5 เพราะข้อมูลโจทย์บอกว่าเรียงจากน้อยไปมาก กรณีนี้ยกเลิกไป

    ถ้าผมให้ \(b=11\) จะได้ \(a=4\) ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ \(a\) จะเท่ากับ 4 เพราะว่าจะทำให้ข้อมูลชุดนี้มีฐานนิยมสองตัวครับ

    ถ้าผมให้ \(b=12\) จะได้ \(a=3\) ซึ่งเป็นไปได้ ดังนั้น \(b-a=12-3=9\)

    ถ้าผมให้ \(b=13\) จะได้ \(a=2\) ซึ่งเป็นไปได้ ดังนั้น \(b-a=13-2=11\)

    ถ้าผมให้ \(b=14\) จะได้ \(a=1\) ซึ่งเป็นไปได้ ดังนั้น \(b-a=14-1=13\)

    ถ้าผมให้ \(b=15\) จะได้ว่า \(a=0\) ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะว่า \(a\) ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ขึ้นไช่ไหม

    ดังนั้น \(b-a\) ที่มีค่าเป็นจำนวนเต็มน้อยสุดคือ เท่ากับ \(9\) นั่นเองคับ